( ตอน เสวนากับตาปั่น )
ณ ที่ลานบ้านพ่อเฒ่าปั่น
“สวัสดีค่ะ…คุณตา” ออมยกมือไหว้พ่อเฒ่าปั่น
“สวัสดีจ๊ะ หลาน ๆ แหม วันนี้มากันหลายคนทีเดียว”
“ครับคุณตาก็ออมนั่นแหละครับ พอไปภึงโรงเรียนก็เล่าเรื่องดาวลูกไก้ให้เพื่อนๆฟัง เพื่อน ๆ สนใจกันทุกคนเลยครับ เขาอยากจะมาฟังนิทานกับคุณตา แต่เขามาไม่ใด้ เขาบอกว่าวันเสาร์วันอาทิตย์นี้แหละ จะมาฟังนิทานจากคุณตา ให้ได้เลย คุณตาจัขัดข้องไหมครับ”
“เออ…ดีสิ มาเยอะ ๆ จะได้ข้อคิดดี ๆ ไปใช้” พ่อเฒ่าปั่นบอกหลานๆ อย่างใจดี
“คุณตาครับ วันนี้คุณตากรุณาเล่านิทานให้พวกผมฟังอีกได้ไหมครับ”
ทิวขยับไปใกล้ ๆ แล้วออเสาะถาม
“มีสิหลาน วันนี้ตาจะเล่าผญานิทานเรื่อง ริมไกรลาศ ให้ฟัง”
“ริมไกรลาศ มันเป็นอย่างไรครับ…คุณตา” บอมถามชายชราด้วยความสนใจ
“ริมไกรลาศ มันเป็นเรื่องราวของความมีธรรมะของสัตว์ที่เรียกว่า เดรัจฉาน นั่นแหละ”
ชายชราตอบ”ตั้งใจฟังให้ ดีๆนะ จะได้จดจำเอาแต่สิ่งดีๆ ไปใช้”ตาปั่นพูดขึ้น แล้วขยับตัวในท่านั่งสบายๆ เสียงเล่าเป็นสำนวนผญาก็เริ่มขึ้นว่า
( ตอน ที่เชิงเขาไกรลาศ )
…อรุณเขยป่องฟ้า นภาส่องสดใส วาโยพัด เมฆลอยบ่มียั้ง
…ยังท่อเสือสารช้าง กวางกระทิงออกเหล่า ฝูงหมู่วัวแฮด ม้า กาเอี้ยงออกแสวง
…หาใส่ท้องหลบหลีกภัยพาล สรรพมวลสัตว์สา อยู่เนาเนืองแน่น
…ณ ที่ศิขรินทร์กว้าง ขุนเขาไกรลาศ พระศิวะประทับยั้ง วิมานแก้วนั่งปอง
…บ่อนเชิงเขาพัดแม่นหม่อง ที่อยู่ปวงสัตว์ บ่อาจขั้นนะนานับ มากมายหลายล้น
…ตรงที่ริมเขานั้น ยังมีงัวแม่ลูกอ่อน เนาอยู่ในซอกถ้ำ พอซ่นเพิ่งเย็น
…มื้อสืบมื้อพาลูกหากิน ตฤณมัยสด อ่อนงามเขียวดั้ว
…กลัวแต่เสือสางเฒ่า มาเห็นขบคาบ คอยระวังลูกน้อย ยังบ่ฮู้ห่อมถัย
…สอนลูกน้อย ให้หลบหลีกภัยพาล อย่าสิมัวเมาเผลอ เกลือกตายบ่มีฮู้
…คูหาน้อยสองราสนุกยิ่ง จริงแหล่ว หญ้าและน้ำพอได้อิ่มเต็ม
…มื้อหนึ่งนั้น แม่กะชวนลูกน้อย เลาะเลียบเชิงเขา ตฤณมัยเขียวอ่อนงามเหลือฮ้าย
…ให้ลูกจำเอาไว้ ระหวังเสือแม่ลูกอ่อน เจ้าอย่าได้ประมาทแท้ ตายได้ทุกยาม…ลูกเอ้ย
…สั่งลูกแล้วก็เลาะเลียบตามเขา ตาเลียวมอง ผ่องเล็มกินหญ้า
…สองร้าฮ้าง แฮมคีงไกลห่าง กันแหล่ว ลูกกับแม่มัวตั้งแต่แซ่บซ้อย บ่เงินหน้าเบิ่งกัน
…ดงไม้ขั้น เขาโขนเนินไศล แซ่บท่อชิวหารส ก่ะเล่าลืมภัยฮ้าย
…ความตายมากรายใกล้ หลงไปบ่ฮู้เมื่อ มัจจุราชจอบลี้ เฮียงข้าง กะบ่เห็น
( ตอนเผชิญพยัคฆ์ร้าย )
…กล่าวถึงเสือโคร่งฮ้าย แม่ลูกอ่อนออกหากิน สองตามัวเหลียวเห็น แม่งัวแดงน้อย
…มันกะคอยเหลียวจ้อง มองงัวแม่ลูกอ่อน มื้อนี้กูดชคดีแท้ ได้กินซิ้นแม่ลูกอ่อน
…ฝ่ายแม่งัวเล็มหญ้า นาสาผัดได้กลิ่น เสือแหล่ว เบิ๋ดแฮงบ่กล้าดิ้น กลัวย่านสั่นสาย
…เลยค่อยมอบข้าใกล้ จาต่อยังเสือ ขอให้ฟังสัจจา ฝ่ายเฮาแถลงเว้า
…เฮานี้มีบุตรน้อย สอยวอยยังอ่อน ลูกกะยังดูดจู้ นมฮ้าวลูกสิหิว
…ให้เฮากลับไปเว้า ลาลูกบุตรา ก่อนถ่อย ให้ลูกกินนมเสร็จ สิต่าวมาหาเจ้า
…เฮานี้คือสัจจ์แท้ บ่มีแปรปิ้นไป่ ดอกนา คันได้สั่งลูกแล้ว สิกินซี้นกะบ่อแหนง
…เสือใหญ่ฟังแจบแจ้ง เห็นจริงจังสัจจะ บ่มีแฝงเลห์
…กะเลยปลงใจให้ งัวไปสั่งลูกอ่อน คุนป้อนนมลูกแล้ว ให้โงโค้งดั่งจา เด้อ
…แม่งัวบ่ได้ซ้า ฟ้าวฟั่งกลับคืน เห็บบุตรา แม่กะเอานมป้อน
…สมควรแล้ว แม่งัวแดงเว้าลูก เอิ่นสั่งแล้ว กะเลยฟ้าวแล่นคืน
…ลับเหลี่ยมโค้ง ฟ้าวตามหาเสือ ก็เผื่อเป็นอาหาร แม่เสือจั่งเคยเว้า
( ตอน ลูกน้อยกลอยใจ )
…ลูกน้อยเอาโตเต้น ติดตามก้นแม่ มาแล้ว เข้าแทบใกล้ จาต้านต่อแม่เสือ
…ดูรา… แม่เสือเฒ่า จอมไพร่เจ้าป่า ผู้ข้าเป็นลูกน้อย ของแก้วแม่งัว
…แม่นั้นเลี้ยงผู้ข้า คุณเพิ่นหนาหนัก ต่อให้เขาสุเมรุสูง บ่อาจเทียมคุณได้
…ลูกบ่มีหยังให้ สิแทนคุณของแม่ มีแต่ชีวิตนี้ ลูกขอม้วนไถ่แทน
…ยามยากแค้น ลูกขอไถ่มารดา ลูกขอเป็นอาหารแม่เสือ แทนท่าน
…สังขารนี้สิขอเทท่านทอด ว่าแต่มารอดพ้น ลูกยอมให้แม่เสือ กินแหล่ว
…แต่นั้นนางเสือเฒ่า คอยฟังยั้งอยู่ นางก็คิดฮ่ำฮู้ ใจแจ้งแห่งธรรม
…แม่งัวประเสริฐล้ำ ตั้งเที่ยงสัจจา ลูกก็กตัญญู เลิศคนทั้งค่าย
…ไปสาเด้อ ๆ หล่า กลับคืนเมือกับแม่ แม่บ่กินแท้ๆ แม่กลัวย้านบาปกรรม
…เห็นเจ้าทำดีแล้ว แม่กะอยากมีศีล เฮานี้ยินดีหลาย แม่งัวอย่ากลัวย้าน
…เฮานี้สงสารเจ้า ทรกาน้อยอ่อน วอนตายแทนอยู่ไจ้ไจ้ ใจเจ้าปรเสริฐหลาย
…กตัญญูบ่เบี่ยงบ้าย เป็นที่อัศจรรย์ เฮามาผันป็นสหาย เสี่ยวเกลอกันไว้
…แม่นหมู่เทวาไท้ หรือไผมาหยุดบาป กันน้อ เสือกับงัวกะเลยฮักต่อมตุ้มเมธีท่านค่อย พิจารณ์…เอาเด้อ